ลองกานอยด์,longanoid

ปัจจุบันสมุนไพรไทย เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และคนไทย

อีกทั้งวันนี้ต่างประเทศก็เปิดให้การยอมรับมากขึ้น และมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จากเมืองไทยเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยชิ้นโบแดงอย่าง ลองกานอยด์ (LONGANOID) ที่พิสูจน์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยการคว้ารางวัลจากกรมการแพทย์แผนไทยถึง 2 ปีซ้อน รวมถึงคว้ารางวัลใหญ่จากทั่วโลกถึง 9 รางวัล อาทิ รางวัลเหรียญทองนวัตกรรมโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ รางวัลเหรียญเชิดชูเกียรติจากสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติประเทศไต้หวัน เป็นต้น

ศ. (เกียรติคุณ) ดร.อุษณีย์ วินิตเขตคำนวณ กรรมการบริหาร ที่ปรึกษางานวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เดอพรีม่า เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ลองกานอยด์” กล่าวว่า ปัจจุบันการดำเนินชีวิตในรูปแบบ New Normal ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเรา ทั้งในด้านบวกและด้านลบไปพร้อมกัน กล่าวคือ มีการหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด มีความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามอาจไม่ได้เน้นเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก เช่น การบริโภคแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ยืนหรือนั่งนานๆ จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน พร้อมทั้งโรคและอาการอื่นๆ ตามมา เช่น อาการปวดเข่า โรคไขข้ออักเสบ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ทั้งคนทั่วไปและนักกีฬา หากหักโหมมากเกินไปอาจเสี่ยงต่ออาการกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือไขข้ออักเสบได้ง่าย

ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แบบ ประชากรกว่า 20% ของประเทศจะมีอายุมากกว่า 60 ปี แต่การรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทยยังไม่มีความพร้อมเท่าที่ควร เช่นเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งหนึ่งในโรคที่ผู้สูงอายุเจ็บป่วยกันมากคือ “โรคไขข้ออักเสบ”

ทั้งนี้ “อาการข้ออักเสบ” มีหลายรูปแบบ โดยรูปแบบที่พบมากที่สุดคือ ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)” ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บของข้อต่อ การติดเชื้อของข้อ รวมถึงอายุที่มากขึ้น ซึ่งต้องรีบทำการรักษาหากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังจะทำให้ยากต่อการรักษา

ดร.อุษณีย์ กล่าวต่อว่า การรักษาผู้ป่วยข้อเสื่อมมีหลายวิธี เช่นการทานยาลดการปวดอักเสบ การทำกายภาพบำบัด ซึ่งต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและใช้เวลานานพอสมควร การฉีดยาเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า ต้องฉีดเป็นประจำและมีผลข้างเคียงตามมาภายหลัง หรือวิธีการผ่าตัด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการผ่าตัด รวมถึงมีข้อปฏิบัติดูแลภายหลังการผ่าตัดอีกมาก จึงเป็นสาเหตุให้มีผู้ป่วยหลายคนเริ่มหันมาพึ่งวิธีธรรมชาติบำบัดจากแพทย์ทางเลือก เนื่องจากมีความปลอดภัยและมีราคาประหยัดกว่า

โดยหนึ่งทางเลือกในการรักษาโดยเลี่ยงวิธีการผ่าตัดคือ การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยอย่าง “ลองกานอยด์” ซึ่งเป็นสารสกัดจากเมล็ดลำไย อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันและยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อน รวมถึงสามารถช่วยให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยงที่ไขข้อได้ดี

กระทั่งได้ทำการวิจัยจนได้สารสกัดจากเมล็ดลำไย ต่อยอดพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ลองกานอยด์ ทั้งนี้ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานจึงพัฒนาให้อยู่ในรูปของครีมนวด จากนั้นได้นำไปทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัคร ที่มีปัญหาเป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจ โดยพบว่าอาการปวดข้อกระดูกลดลง โดยอาสาสมัครหลายคนเดินสะดวกขึ้น ที่สำคัญครีมลองกานอยด์ไม่มีส่วนผสมของยากลุ่มสเตียรอยด์ จึงปลอดภัยต่อผู้ป่วยสูงอายุ กลุ่มผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิต โรคหัวใจ และกระเพาะอาหาร

ปัจจุบันสมุนไพรไทยกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก จะเห็นได้จากแนวโน้มการส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยสมุนไพรไทยมีหลากหลายชนิดและมีสรรพคุณมากมาย บรรพบุรุษของเรามักนำเอาพืชพันธุ์ต่างๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นและมีสรรพคุณทางยามาใช้ในการรักษาโรค ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นเหล่านี้ ลองกานอยด์จึงมีแนวคิดที่จะยกระดับภูมิปัญญาสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศทั่วโลก ด้วยการนำมาเข้าสู่กระบวนการวิจัยที่ได้มาตรฐานสากล และพัฒนาต่อยอดจนได้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมธรรมชาติบำบัด “ลองกานอยด์” ซึ่งเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศ

ยกระดับสมุนไพรไทย สู่เวทีโลก จากเมล็ดลำไย สู่ “ครีมนวดลองกานอยด์”