ในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ป่วยเป็นโรคเข่าเสื่อม ซึ่งโรคชนิดนี้ในสมัยก่อนเราจะคิดกันว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สำหรับปัจจุบันกลับพบว่าโรคชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ขึ้นไป  สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งขัดสมาธิ หรือนั่งงอเข่า การยืนเป็นเวลานานๆ การเดินขึ้น เดินลงบันได น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อการเสื่อมของข้อเข่าโดยทั้งสิ้น

มีหลากหลายวิธีที่จะใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ไม่ว่าจะเป็น

  • การทานยาลดการปวดอักเสบ
  • การทำกายภาพบำบัด แต่จะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร
  • การฉีดยาเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า ต้องฉีดติดต่อเป็นประจำ และยังจะมีผลเสียตามมาในภายหลังอีกด้วย
  • การผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการผ่าตัดได้ ทำให้มีอันตรายตามมาอีกมากมาย

เพราะสาเหตุเหล่านี้จึงทำให้ผู้ป่วยหลายคนเริ่มหันมาพึ่งวิธีธรรมชาติบำบัดแทน เพราะนอกจากจะปลอดภัยแล้วยังราคาประหยัดกว่าอีกด้วย

ศ.ดร. อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ค้นพบว่าผลไม้ไทยของภาคเหนืออย่างลำไย ซึ่งมีเมล็ดที่ดูไม่มีประโยชน์แต่กลับอุดมไปด้วยสารโพลีฟินอล และ ฟลาโวนอยด์ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันขบวนการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อน สามารถช่วยให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อได้ดี จึงได้ทำการวิจัยจนได้สารสกัดจากเมล็ดลำไยชื่อว่า ลองกานอยด์ จากนั้นก็นำสารชนิดนี้ไปผสมกับว่านสมุนไพรพื้นเมือง 12 ชนิดของทางภาคเหนือ และเพื่อให้สะดวกต่อการนำไปใช้จึงทำออกมาในรูปของครีมนวด โดยนำไปทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครที่มีปัญหา เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ซึ่งพบว่าหลายคนอาการปวดข้อกระดูกลดลง หลายคนเดินสะดวกขึ้น ที่สำคัญครีมดังกล่าวไม่มียากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นตัวยาที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยสูงอายุ กลุ่มผู้เป็นโรคความดันโลหิต หัวใจ และกระเพาะอาหาร

สารสกัดจากเมล็ดลำไยลองกานอยด์ ได้มีงานวิจัยรับรองผลประสิทธิภาพและความปลอดภัย ว่าช่วยป้องกันและบรรเทาภาวะเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อคอลลาเจน, อิลาสติน และเซลล์กระดูกอ่อน อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรครูมาตอยด์และกล้ามเนื้ออักเสบ สารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถยับยั้งการสลายองค์ประกอบที่สำคัญของกระดูกอ่อน อาทิ ไฮยารูโลนิค และไกลโคสอะมิโนไกลแคน ทั้งยับยั้งเอนไซม์โปรทีเนส MMP มิให้ย่อยสลายกระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อในภาวะทำงานหนัก จึงช่วยยืดอายุไขข้อกระดูกและกล้ามเนื้อไม่ให้เสื่อมและสึกหรอเร็วก่อนเวลา ต่อมาสารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์ ได้มีการพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบของครีมนวดลองกานอยด์ เพื่อสะดวกในการนำมาใช้งาน ได้คิดค้นให้มีอยู่ด้วยกันสองสูตรเพื่อความสะดวกและความชอบของผู้ใช้ คือ สูตรเฮอร์บัลวอร์ม ที่พัฒนาจากสูตรดั้งเดิมกลิ่นสมุนไพร และ สูตรคูลแอนด์อะโรมาที่ให้ความเย็นพร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมระเหย

ครีมนวดลองกานอยด์ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การรันตีคุณภาพงานวิจัยด้วยรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2552, รางวัลนวัตกรยอดเยี่ยมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2554

ครีมนวดลองกานอยด์ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทย โดยเน้นวัตถุดิบจากสมุนไพรไทยธรรมชาติ ให้เข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยให้ผลอย่างคุ้มค่าไม่เอาเปรียบผู้บริโภค โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความแปลกใหม่ที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า ทำให้ครีมนวดลองกานอยด์ได้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ เนื่องจากความเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติบำบัดแท้ๆ ทำให้ผู้ที่ได้ทดลองใช้แล้วต่างบอกว่า เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว และมีราคาถูกกว่าครีมนวดทั่วไปในท้องตลาด

ปัจจุบันครีมนวดลองกานอยด์เป็นที่รู้จักของคนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่เคยต้องทานยารักษาหรือเสี่ยงต่อการผ่าตัด มีความสุขสามารถดำรงค์ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติขึ้น  และมีกำลังใจในการลุกขึ้นมาต่อสู้กับอาการเจ็บปวดที่เป็นอยู่ และต้องขอขอบคุณนักวิจัยไทยที่เก่งและมีคุณภาพที่เล็งเห็นการนำประโยชน์จากเมล็ดลำไยที่ถูกทิ้งขว้างมาแสนนานมาพัฒนาและสามารถช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาโรคเข่าเสื่อมให้หายจากอาการเจ็บปวดและไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 091 – 1421184 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

 

>> สั่งซื้อครีมนวดลองกานอยด์กับเราได้ที่นี่ <<

ครีมนวดลองกานอยด์ – มหัศจรรย์สารสกัดจากเมล็ดลำไยต้านเข่าเสื่อม